สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
- วัดถ้ำคีรีธรรม
- 6 days ago
- 1 min read
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปริณายก ทรงมีพระบัญชาให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ ในพิธีประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยมีวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในงวดที่ ๑ และงวดที่ ๒ ประจำปี ๒๕๖๗ รวมจำนวน ๔๓๔ วัด ในวันศุกร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม โดยมีนางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยหน่วยงานราชการในจังหวัดนครปฐม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และ พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมถวายการต้อนรับ การนี้ นางกณิกนันต์ ล้อสีทอง รองผู้อำนวยการ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้กราบนมัสการถวายรายงาน
เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ได้เชิญพระโอวาทสมเด็จพระสังฆราชมากล่าวในพิธี ความตอนหนึ่งว่า “ วิสุงคามสีมา แปลว่า เขตแดนส่วนหนึ่งจากแดนบ้านคือที่ดินที่แยกต่างหาก จากที่ดินของบ้านเมือง เป็นเขตที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานแก่พระสงฆ์เป็นการเฉพาะเพื่อใช้สร้างอุโบสถเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชศรัทธาของ พระมหากษัตริย์ ที่ได้ทรงประกาศพระบรมราชูทิศ พระราชทานที่ดินและจำแนกพระราชอำนาจในการปกครองให้แก่ฝ่ายพุทธจักร เพื่อให้คณะสงฆ์สามารถประกอบสังฆกรรมสำคัญได้ทุกชนิด ตามหลักพระธรรมวินัย
เจ้าอาวาส ผู้ทำหน้าที่ปกครองบริหารกิจการวัด ตามที่คณะสงฆ์มอบหมาย ล้วนมีหน้าที่กวดขัน สอดส่อง ดูแลพระภิกษุสามเณรลูกวัดให้ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในพระธรรมวินัย กฎหมายบ้านเมือง และกฎระเบียบของทางคณะสงฆ์อย่างเคร่งครัด ต้องจัดการวัดให้เป็นสัปปายะเอื้อเฟื้อต่อการศึกษาพระบริยัติธรรม การเผยแผ่พระพุทธธรรม และการบำเพ็ญสมณธรรม ในขณะเดียวกัน "วัด" ในฐานะที่เป็นสถาบันสำคัญของชุมชนจะวางตนแปลกแยก หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อสังคมมิได้ หากแต่ต้องเป็นกลไกสำคัญในการช่วยกล่อมเกลาจิตใจสมาชิกให้เป็นพลเมืองดีมีศีลธรรม หมั่นประกอบสัมมาชีพ เสริมสร้างความสามัคคีระหว่างชาวบ้านและชาววัด ให้ชาวบ้านต่างอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างผาสุกขอพระภิกษุสามเณรในวัด อย่าริทำตนอุตริ อย่าแสวงประโยชน์นอกจารีต กระหายลาภใคร่ยศ โดยวิธีอันมิชอบธรรม อย่าอวดดื้อถือดียึดทิฐิมานะของตนเป็นใหญ่ เหนือยิ่งไปกว่าพระธรรมวินัย จนผิดแผกไปจากครรลองของคณะสงฆ์ซึ่งบูรพาจารย์ได้สู้อุตส่าห์อบรมสั่งสอนและวางเนติแบบแผนอันดีงามไว้แล้ว
ขอเน้นย้ำภารกิจหลัก ๖ ประการของคณะสงฆ์ไทย กล่าวคือ ๑. การปกครอง ๒. การศึกษา ๓. การเผยแผ่ ๔. การศึกษาสงเคราะห์ ๕. การสาธารณสงเคราะห์ และ ๖. การสาธารณูปการ ไว้ให้เป็นหน้าที่สำคัญสูงสุดสำหรับท่านเจ้าอาวาส และพระภิกษุสามเณร ขอจงพากเพียรปฏิบัติบริหารให้บังเกิดประสิทธิผล โดยราบรื่นเรียบร้อยครบถ้วนทุกด้าน อย่าให้บกพร่อง หรือหย่อนความสามารถไปในด้านหนึ่งด้านใดเพื่อวัดของท่านจักได้ชื่อว่าเป็นวัดดี เป็นศรีแห่งพระศาสนา สามารถอำนวยศุภผลยังประโยชน์เกื้อกูลแก่แผ่นดินนี้ได้ตลอดไป
Comments